9 ทริคการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน

การขับซอกแซกตอนที่รถติดและต้องใช้ความเร็วต่ำ คือสิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งของการขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักมาก มีแฮนบาร์ที่กว้าง ต้องคอยดูคอยหลบกระจกรถยนต์ทั้งสองข้าง ยิ่งถ้าเหลือช่องแคบๆนี่แทบหมดอนาคต ต้องหยุดรอไปพร้อมรถยนต์เลย ไหนจะเรื่องตาและมือต้องทำงานประสานกันได้อย่างดีช่วงชิงจังหวะได้อย่างทันท่วงที ต้องใช้สมาธิ และการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม       สำหรับทริคนี้จะช่วยให้คุณทรงตัวได้ดีขึ้น โดยให้เบรคหลัง มันจะช่วยให้คุณเร่งความเร็วขึ้นได้อย่างนุ่มนวล และพร้อมที่จะเบรคเพื่อหยุดรถได้ในทันทีหากจำเป็น วิธีการก็คือ กำคลัตช์แล้วปล่อยให้รถไหลไปตามแรง ใช้ปลายเท้าแตะเบรคเบาๆให้เกิดแรงหน่วงพอประมาณ อย่ากระแทกเบรคหรือเหยียบเบรคแรงๆ การใช้เบรคหน้าอย่างกระทันหันในขณะเร่งความเร็วหรือกำลังออกตัวจะทำให้เกิดอาการกระตุก หรือกระแทกเบรค บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่ามันช่วยให้ทรงตัวซ้ายขวาได้ดีในตอนที่ต้องเร่งและชะลอความเร็ว แต่มันจะขาดความสมดุลหน้าหลัง โดยน้ำหนักจะกดลงไปข้างหน้าแล้วเด้งกลับมาข้างหน้าทำให้ขาดความนุ่มนวล แต่มันจะช่วยไม่ให้โยกเยกหรือเอียงซ้ายทีขวาทีในตอนที่ต้องซอกแซกโดยใช้ความเร็วที่ต่ำมาก 1. บิดคันเร่งช่วยให้ลดเกียร์ลงได้อย่างนุ่มนวล การลดเกียร์ลงและปล่อยคลัตช์อย่างรวดเร็วจะทำให้การทำงานของเครื่องยนต์สะดุดลงชั่วคราวเป็นการลดความเร็วที่ล้อหลัง แต่ข้อจำกัดก็คือ หากคุณต้องเลี้ยวหักมุม หรือเข้าโค้ง คุณจำเป็นต้องลดความเร็วให้ต่ำพอแล้วถึงจะเลี้ยวได้ สำหรับทริคนี้เคล็ดลับจะอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างรอบเครื่องยนต์กับระดับเกียร์ เร่งเครื่องให้เหมาะสมกับความเร็วจะทำให้เครื่องยนต์ไม่สะดุดหรือชะลอตัวอย่างกระทันหัน บางครั้งมันพูดง่ายแต่ทำยาก มันขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา และความรู้สึก วิธีการก็คือ หลังจากคุณกำคลัตช์และลดเกียร์ลง ให้คุณใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางมือขวากำเบรค แล้วใช้นิ้้วอื่นๆ บิดคันเร่ง การใช้เกียร์ต่ำจะเป็นการชะลอเครื่องยนต์ไปในตัวอยู่แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็คือปล่อยคลัตช์ให้ได้จังหวะเหมาะสมกับเกียร์ และกำเบรคให้ได้จังหวะกับการบิดคันเร่ง อย่าลืมทำความคุ้นเคยกับแรงบิดและกำลังของเครื่องยนต์ เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะต้องสัมพันธ์กัน แล้วคุณจะขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล คล่องตัว 2. ใช้เบรคเพื่อความเร็วและการเข้าโค้งอย่างปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเข้าโค้งโดยใช้ความเร็วสูงๆ แล้วไปเบรคหัวทิ่มเอาในโค้ง…

10 เทคนิคปลอดภัย เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์ในหน้าฝน

ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว แน่นอนว่าอุปสรรคตัวสำคัญของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ก็คือสายฝนที่โปรยปรายลงมานั่นเอง นอกจากจะทำให้ตัวเปียกแล้ว ยังทำให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ลำบาก และอาจเกิดอุบัติเหตุง่ายๆ ได้อีกด้วย วันนี้ masii เลยได้นำ 10 เทคนิคดีๆ ในการขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝนนี้ มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 10 เทคนิคปลอดภัย เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์ในหน้าฝน 1. เช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ให้เรียบร้อย ในสภาพอากาศแบบนี้ ขี่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆ ก็ไม่รู้ว่าฝนจะตกเมื่อไร ยังไงควรเช็กสภาพรถมอเตอร์ไซค์ให้เรียบร้อย ตรวจเช็กสภาพเบรก น้ำมันเบรก ผ้าเบรก เช็กลมยางพร้อมตรวจดูดอกยางว่าเหลือมากน้อยเท่าไร ไปจนถึงน้ำมันเครื่อง ระบบกรองอากาศ และระบบไฟต่างๆ ให้รถมอเตอร์ไซค์ของคุณมีสภาพพร้อมลุยฝนได้อย่างมั่นใจ 2. เตรียมอุปกรณ์คนขับให้พร้อม รถมอเตอร์ไซค์พร้อมแล้ว ต่อไปก็ถึงคิวของคนขับ โดยหากใครที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝนทุกวัน ควรเตรียมไอเทมกันฝน เช่น เสื้อกันฝน หรืออุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ เช่น แจ็กเก็ต กางเกง รองเท้ากันน้ำ ถุงมือกันน้ำ กระเป๋ากันน้ำ และห้ามลืมหมวกกันน็อคแบบที่มีวินด์ชีลด์ หรือหน้ากากเด็ดขาด 3. ขี่รถด้วยความเร็วที่เหมาะสม อย่างที่รู้กันว่าถนนตอนฝนตกนั้นลื่นสุดๆ ดังนั้นผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม พร้อมลดความเร็วลงเมื่อต้องขี่มอเตอร์ไซค์ท่ามกลางสายฝน เพราะตอนที่ถนนเปียกนั้น…

ล้อซี่ลวดกับล้อแม็ก แบบไหนดีกว่ากัน

ของประโยชน์ที่เราจะได้รับจากล้อแต่ละแบบ มีดังต่อไปนี้ ความแข็งแรง ทนทาน ล้อแบบซี่ลวด เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีน้ำหนักที่เบากว่าล้อแม็กซ์อย่างแน่นอน แต่ในเรื่องของความทนทานล่ะ จะมีใครรู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว ล้อแบบซี่ลวดนั้นมีความแข็งแรงกว่าล้อแม็กซ์อย่างไม่น่าเชื่อ สังเกตุได้ว่า รถจักรยานยนต์จำพวก วิบาก หรือแบบลุยน้ำลุยไฟ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้เป็นล้อแบบซี่ลวดทั้งนั้น แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานอีกด้วยล่ะครับ เพราะถึงจะให้แข็งแรงขนาดไหน แต่ถ้าใช้งานหนักจนเกินไป ความเสียหายก็จะมาเยือนรถของท่านได้อย่างรวดเร็วอยู่ดี ความนุ่มนวล แน่นอนครับว่า หลายๆ คนจะคิดว่าความนุ่มนวลของรถนั้นขึ้นอยู่กับระบบกันสะเทือนหรือที่เราเรียกกันว่า โช๊คอัพ ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นในส่วนของล้อก็มีความเชื่อมโยงในด้านนี้อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และล้อที่อาจจะมีความนุ่มนวลกว่าก็คือ ล้อแบบซี่ลวด นั่นเองครับ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักอีกด้วย หากล้อแม็กซ์มีน้ำหนักที่เบากว่า วัสดุดีกว่า ก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นล้อชนิดแม็กซ์ที่สามารถรับแรงกระแทกได้ดีกว่านั่นเองครับ การทรงตัว ล้อแม็กซ์ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีน้ำหนักที่มากกว่า จึงทำให้การทรงตัวของรถอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า เพราะเมื่อช่วงล้อของรถ มีน้ำหนักมาก ก็จะทำให้รถของเรานั้นสามารถทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงแล้วแบบไหนดีกว่ากัน? ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆ คนยังมีความสงสัย ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ขับขี่มากกว่าครับ หากเป็นคนชอบขับลุยๆ ไม่เน้นความเร็วมากนัก แน่นอนครับว่าแบบซี่ลวดจะต้องดีกว่า แต่ถ้าหากคุณเป็นสายไบค์เกอร์แบบโหด หรือชอบขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องเป็นล้อแม็กซ์ ที่จะสามารถตอบโจทย์คุณได้ดีกว่าครับ – ล้อซี่ลวด เหมาะกับรถที่ต้องรับแรงกระแทกกระทั้น ขอบพังก็เปลี่ยนเฉพาะขอบได้…

ขั้นตอน และ “วิธีเอาตัวรอดจากเหตุร้าย” ที่ทุกคนควรรู้เอาไว้

เราขอเสนอวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์กราดยิง มาให้เราได้ศึกษากัน เพื่อที่จะเป็นความรู้และสามารถนำไปใช้กัน สรุปของสรุป หนี อย่าโชว์หล่อ ใส่ตีนหมาหนี เอาตัวเองให้รอด ชวนคนอื่นหนี ถ้ามันไม่หนีเราหนีเลย ถ้าหนีไม่ได้ซ่อนให้เงียบที่สุด ล็อคประตู กระจายกันซ่อน ปิดเสียงโทรศัพท์ โพสต์โซเชียลว่าตัวเองอยู่ไหน เจอตำรวจยกมือสวย ๆ ตำรวจสั่งอะไรก็ทำ ถ้ามีผู้บาดเจ็บค่อยช่วย ก่อนเกิดเหตุ เข้ารับการฝึกการเอาตัวรอดจากผู้กราดยิง ถ้าคุณเห็นอะไรหรือสงสัยอะไร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ลงทะเบียนเพื่อรับการแจ้งเตือนฉุกเฉินในท้องที่และลงทะเบียนข้อมูลติดต่อของคุณกับระบบแจ้งเตือน พยายามระแวดระวังรอบ ๆ ตัวและระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น วางแผน วางแผนกับครอบครัวและทำให้แน่ใจว่าคนในครอบครัวทุกคนจะรู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไงถ้าพบกับผู้กราดยิง พยายามมองหาทางออกที่ใกล้ที่สุดสองทางออกในทุก ๆ ที่ที่คุณไป วางแผนหนีไว้ในใจและมองหาสถานที่ที่คุณอาจจะซ่อนตัวได้ในทุกที่ที่คุณไป ทำความเข้าใจแผนสำหรับคนพิการหรือผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือพิเศษ ระหว่างเกิดเหตุ วิ่งหนีถ้าเป็นไปได้ การหนีจากผู้ก่อเหตุกราดยิง ( Active Shooter) คือความเร่งด่วนสูงสุด ทิ้งสัมภาระส่วนตัวและหนีอย่างเดียว ช่วยผู้อื่นหนีด้วยถ้าเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามควรหนีไม่ว่าผู้อื่นจะยอมหนีตามไปด้วยหรือไม่ แจ้งเตือนและป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่จะเข้าไปในพื้นที่ที่เกิดเหตุกราดยิง โทรแจ้งเหตุเมื่อคุณปลอดภัย และอธิบายรูปลักษณะ สถานที่ และอาวุธที่มีผู้ใช้กราดยิง ซ่อน ถ้าหนีไม่ได้ หลบจากสายตาของผู้กราดยิง และอยู่ให้เงียบที่สุด ปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด รวมถึงปิดการสั่น…

ระวัง 5 จุดอันตรายของนักบิด

อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่ มักเกิดกับรถจักรยานยนต์ โดยมีสาเหตุมาจากการขาดความรู้หรือความเข้าใจเกี่ยวกับรถที่ตัวเองขับ จากความไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมไปถึงความประมาท เช็คราคา.คอมตระหนักถึงความสำคัญในการลดอุบัติเหตุของรถจักรยานยนต์บนท้องถนน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติไปแล้ว บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 5 จุดอันตรายของนักบิด ที่อาจช่วยลดอุบัติเหตุจากการขับขี่จักรยานยนต์ได้ไม่มากก็น้อยครับ 1. จุดอับสายตาข้างรถ มุมอับหรือจุดบอดที่ผู้ขับรถยนต์ไม่อาจเห็นได้ชัดเจนนั่นคือ ช่วงด้านข้างรถค่อนไปทางด้านหลัง (บริเวณประตูหรือซุ้มล้อหลัง) ซึ่งจุดนี้ผู้ขับรถไม่สามารถเห็นได้จากกระจกมองข้างหรือกระจกมองหลังได้ จึงเป็นจุดอับสายตา ดังนั้นการขับขี่จักรยานยนต์ควรระวังจุดอับสายตาตรงนี้เป็นสำคัญ เพราะเมื่อรถเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนอาจชนกันได้ 2. ขับจี้ท้ายรถบรรทุก การขับจี้ท้ายรถยนต์ทั่วไปนับว่าอันตรายอยู่แล้ว ยิ่งกับรถบรรทุกหรือรถที่ติดตั้งตู้ทึบเก็บของส่วนท้ายยิ่งควรหลีกเลี่ยง เพราะผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไม่สามารถมองเห็นรถหรือเหตุการณ์ข้างหน้าในระยะไกลๆ ได้ ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องขับตามรถเหล่านี้ขอให้เว้นระยะห่างให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้และพยายามชิดซ้ายของช่องทางเพื่อให้มองผ่านรถคันถัดไปได้ 3. เลี้ยวโค้งไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย การเลี้ยวโค้งทุกครั้งควรให้ตัวรถอยู่ชิดขอบซ้ายของช่องทางมากที่สุด เพื่อป้องกันรถยนต์ที่ขับตามมาหรือขับสวนทางที่อาจจะกินเลนเข้ามาหาได้ และเผื่อช่องว่างระหว่างรถที่ขับตีคู่กันมาในขณะเข้าทางโค้งเอาไว้มากๆ นอกจากนี้ต้องพยายามมองเหตุการณ์ข้างหน้าระยะไกลๆ ประกอบกันไปด้วย 4. ไม่เผื่อระยะเมื่อแซง ในกรณีที่รถจักรยานยนต์ต้องการแซงรถคันหน้าไม่ว่าจะแซงทางซ้ายหรือขวา เมื่อแซงพ้นแล้วควรเว้นหรือเผื่อระยะห่างระหว่างหน้ารถที่เราแซงออกไปซักเล็กน้อย เพราะถ้ารถคันที่เราแซงกำลังเร่งเครื่องพอดีอาจเกิดการชนท้ายได้ 5. เลี้ยวออกจากซอย การเลี้ยวออกจากตรอกซอกซอยเป็นจุดที่ควรระวังมากที่สุด เพราะผู้ขับขี่จักรยานยนต์มักคิดว่ารถคันเล็กเร่งได้รวดเร็วกว่าและสามารถออกรถตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดได้ทัน ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้ดูให้แน่ใจก่อนว่ารถคันที่ขับผ่านนั้นใช้ความเร็วมากน้อยเพียงใด รวมถึงการเบี่ยงตัวรถจักรยานยนต์เพื่อหลบสิ่งกีดขวางโดยไม่มองรถที่ขับตามหลังมาด้วย นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ อย่ารีบร้อน…ดูให้แน่ใจ…จำให้ดี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรระลึกไว้ว่า การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์นั้น ไม่ต่างอะไรกับ “เนื้อหุ้มเหล็ก” และไม่ว่าเราจะขับดีมีความรอบคอบเพียงใด แต่ปัจจัยอื่นๆ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเราได้…

สิทธิพิเศษการรับประกันคุณภาพรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า

รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น ไม่เกิน 500 ซีซี. ที่ได้ลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป จะได้สิทธิรับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนเป็นเวลา 5ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งานทั้งนี้ต้องนำรถเข้าตรวจเช็คตามระยะที่บริษัท ฯ กำหนด